กรุงเทพฯ 25 มกราคม 2555 – กรุงศรีกรุ๊ป [ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ] ประกาศการลงนามสัญญาเข้าซื้อธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยของธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย อันประกอบด้วยธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และธุรกิจเงินฝาก
การเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติของผู้ถือหุ้นกรุงศรีกรุ๊ปและหน่วยงานด้านการกำกับดูแลธนาคาร โดยมีมูลค่าการซื้อขายจำนวน 3,557 ล้านบาท (หรือประมาณ 115 ล้านเหรียญสหรัฐ) และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสแรกของปี 2555 นี้ การเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้จะส่งผลให้สินทรัพย์ของกรุงศรีเพิ่มขึ้นจำนวน 17,452 ล้านบาท หรือเติบโต 1.8% และทำให้สัดส่วนสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้นจากระดับ 45% เป็น 46% ของสินเชื่อรวม
นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรุงศรีกรุ๊ป กล่าวว่า “การเข้าซื้อธุรกิจรายย่อยจากเอชเอสบีซีแสดงให้เห็นถึงการเป็นสถาบันการเงินที่ขับเคลื่อนความเติบโตอย่างต่อเนื่องของกรุงศรี เรายินดีเป็นอย่างยิ่งในโอกาสทางธุรกิจครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าและเสริมความแข็งแกร่งของความเป็นผู้นำด้านธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินกลยุทธ์สร้างความเติบโตในธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยของกรุงศรี”
การเข้าซื้อธุรกิจในครั้งนี้จะทำให้กรุงศรีกรุ๊ปสามารถใช้ศักยภาพของช่องทางจำหน่ายของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นธนาคารที่ได้รับความเชื่อมั่น ไว้วางใจ และเป็นธนาคารที่มีประวัติอันยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอย่างเต็มที่ผ่านเครือข่ายจำนวนกว่า 580 สาขาและช่องทางจำหน่ายกว่า 11,000 แห่งทั่วประเทศ โดยการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้กรุงศรีกรุ๊ปซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยของไทยและเป็นผู้ออกบัตรรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ให้บริการลูกค้าจำนวนกว่า 10 ล้านคน และมีจำนวนบัตรเครดิตมากกว่า 4.8 ล้านบัตร
“การเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าของเอชเอสบีซีได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายของกรุงศรี รวมทั้งเครือข่ายสาขาและช่องทางการบริการของกรุงศรีที่มีอยู่ทั่วประเทศ” นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าว
“เรามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในดำเนินธุรกิจเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็น 1 ใน 3 สถาบันการเงินของประเทศที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด (ROE) ให้กับผู้ถือหุ้น การเข้าซื้อธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยของเอชเอสบีซีเป็นการขับเคลื่อนครั้งสำคัญของกรุงศรีอีกครั้งหนึ่งเพื่อนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าว และเมื่อผสานเข้ากับความเติบโตจากการดำเนินธุรกิจตามปกติ (Organic Growth) จะเห็นได้ถึงความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งของกรุงศรี ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะผู้สร้างนวัตกรรมในภาคธุรกิจธนาคารของประเทศ”
นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าซื้อธุรกิจในครั้งนี้สอดคล้องกลยุทธ์ของกรุงศรีในการสร้างความเติบโตในธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ ธุรกิจสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบุคคลและธุรกิจเงินฝากของเอชเอสบีซีจะถูกผนวกเข้ากับธุรกิจเดิมของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธุรกิจบัตรเครดิตของเอชเอสบีซีจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีเครดิตคาร์ด
การขับเคลื่อนทางธุรกิจครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของแผนเสริมสร้างภาพลักษณ์และยกระดับตำแหน่งทางการตลาด “Make Life Simple เรื่องเงิน เรื่องง่าย” ในการส่งมอบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เข้าใจง่ายผ่านกระบวนการทำงานที่กระชับและรวดเร็วสู่ลูกค้า
กรุงศรีเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ ให้บริการทางการเงินครบวงจร ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งได้แก่ ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจ SME และลูกค้ารายย่อย ในปี 2550 กลุ่มรัตนรักษ์ และ จีอี แคปปิตอล ได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ให้บริการทางการเงินโดยผสานประสบการณ์ ความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งของกรุงศรี เข้ากับความรู้ ความเชี่ยวชาญระดับนานาชาติของจีอี แคปปิตอล
ที่มา : http://www.krungsri.com/th/news-subsidiary-detail.aspx?cids=&cid=&did=13