กรุงศรีกรุ๊ปเข้าซื้อธุรกิจการเงินลูกค้าบุคคล

          
         กรุงเทพฯ 25 มกราคม 2555 – กรุงศรีกรุ๊ป [ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ] ประกาศการลงนามสัญญาเข้าซื้อธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยของธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย อันประกอบด้วยธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และธุรกิจเงินฝาก

         การเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติของผู้ถือหุ้นกรุงศรีกรุ๊ปและหน่วยงานด้านการกำกับดูแลธนาคาร โดยมีมูลค่าการซื้อขายจำนวน 3,557 ล้านบาท (หรือประมาณ 115 ล้านเหรียญสหรัฐ) และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสแรกของปี 2555 นี้ การเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้จะส่งผลให้สินทรัพย์ของกรุงศรีเพิ่มขึ้นจำนวน 17,452 ล้านบาท หรือเติบโต 1.8% และทำให้สัดส่วนสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้นจากระดับ 45% เป็น 46% ของสินเชื่อรวม

        นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรุงศรีกรุ๊ป กล่าวว่า “การเข้าซื้อธุรกิจรายย่อยจากเอชเอสบีซีแสดงให้เห็นถึงการเป็นสถาบันการเงินที่ขับเคลื่อนความเติบโตอย่างต่อเนื่องของกรุงศรี เรายินดีเป็นอย่างยิ่งในโอกาสทางธุรกิจครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าและเสริมความแข็งแกร่งของความเป็นผู้นำด้านธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินกลยุทธ์สร้างความเติบโตในธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยของกรุงศรี”

        การเข้าซื้อธุรกิจในครั้งนี้จะทำให้กรุงศรีกรุ๊ปสามารถใช้ศักยภาพของช่องทางจำหน่ายของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นธนาคารที่ได้รับความเชื่อมั่น ไว้วางใจ และเป็นธนาคารที่มีประวัติอันยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอย่างเต็มที่ผ่านเครือข่ายจำนวนกว่า 580 สาขาและช่องทางจำหน่ายกว่า 11,000 แห่งทั่วประเทศ โดยการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้กรุงศรีกรุ๊ปซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยของไทยและเป็นผู้ออกบัตรรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ให้บริการลูกค้าจำนวนกว่า 10 ล้านคน และมีจำนวนบัตรเครดิตมากกว่า 4.8 ล้านบัตร

         “การเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าของเอชเอสบีซีได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายของกรุงศรี รวมทั้งเครือข่ายสาขาและช่องทางการบริการของกรุงศรีที่มีอยู่ทั่วประเทศ” นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าว

         “เรามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในดำเนินธุรกิจเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็น 1 ใน 3 สถาบันการเงินของประเทศที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด (ROE) ให้กับผู้ถือหุ้น การเข้าซื้อธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยของเอชเอสบีซีเป็นการขับเคลื่อนครั้งสำคัญของกรุงศรีอีกครั้งหนึ่งเพื่อนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าว และเมื่อผสานเข้ากับความเติบโตจากการดำเนินธุรกิจตามปกติ (Organic Growth) จะเห็นได้ถึงความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งของกรุงศรี ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะผู้สร้างนวัตกรรมในภาคธุรกิจธนาคารของประเทศ”

          นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าซื้อธุรกิจในครั้งนี้สอดคล้องกลยุทธ์ของกรุงศรีในการสร้างความเติบโตในธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ ธุรกิจสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบุคคลและธุรกิจเงินฝากของเอชเอสบีซีจะถูกผนวกเข้ากับธุรกิจเดิมของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธุรกิจบัตรเครดิตของเอชเอสบีซีจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีเครดิตคาร์ด

          การขับเคลื่อนทางธุรกิจครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของแผนเสริมสร้างภาพลักษณ์และยกระดับตำแหน่งทางการตลาด “Make Life Simple เรื่องเงิน เรื่องง่าย” ในการส่งมอบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เข้าใจง่ายผ่านกระบวนการทำงานที่กระชับและรวดเร็วสู่ลูกค้า

          กรุงศรีเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ ให้บริการทางการเงินครบวงจร ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งได้แก่ ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจ SME และลูกค้ารายย่อย ในปี 2550 กลุ่มรัตนรักษ์ และ จีอี แคปปิตอล ได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ให้บริการทางการเงินโดยผสานประสบการณ์ ความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งของกรุงศรี เข้ากับความรู้ ความเชี่ยวชาญระดับนานาชาติของจีอี แคปปิตอล

ที่มา : http://www.krungsri.com/th/news-subsidiary-detail.aspx?cids=&cid=&did=13

กรุงศรีคอนซูมเมอร์ คว้ารางวัล “Visa Credit Portfolio Award” สองปีซ้อน


          นายสุขดี จงมั่นคง ประธานกรรมการ กรุงศรีคอนซูมเมอร์ (กลาง) รับรางวัล “Visa Credit Portfolio Award 2011” จาก วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย-แปซิฟิค โดย นายปีเตอร์ มาห์ (ขวา) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสตราเลเซีย และ นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ (ซ้าย) ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย-แปซิฟิค ประจำประเทศไทย ซึ่งกรุงศรีคอนซูมเมอร์ คว้ารางวัลนี้ถึงสองปีซ้อน ตั้งแต่ ปี 2010 และล่าสุด ในปี 2011 ในฐานะที่กรุงศรีคอนซูมเมอร์เป็นผู้ออกบัตรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ


กรุงศรีจับมือสยามคูโบต้าสนับสนุนภาคการเกษตรอย่างครบวงจร อีกหนึ่งความสำเร็จของ ‘กรุงศรี แวลูเชน โซลูชั่นส์’



          กรุงเทพฯ (8 มกราคม 2556) – ธนาคารกรุงศรี และบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส หรือ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ บริษัทในเครือกรุงศรี
พร้อมด้วยพันธมิตร บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผนึกความร่วมมือ เปิดตัวโครงการสินเชื่อเพื่อการค้าขาย
“กรุงศรี แวลูเชน โซลูชั่นส์” สนับสนุนภาคการเกษตรไทยอย่างครบวงจร โดยเสนอสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับ
ผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลทางการเกษตรของคูโบต้าทั่วประเทศ และยัง
สนับสนุนสินเชื่อเช่าซื้อรถแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร ช่วยขยายโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทย
ถือเป็นความอีกหนึ่งก้าวของความสำเร็จของโครงการสินเชื่อ แวลูเชน โซลูชั่น

          ในภาพ: นายสยาม ประสิทธิศิริกุล (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด ในพิธีลงนามสัญญาความร่วมมือโครงการสินเชื่อเพื่อการค้าขาย “กรุงศรี แวลูเชน โซลูชั่นส์” กับนายวรพจน์ แสงทวีสิน (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและวางแผน บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

กรุงศรีสนับสนุนโรงภาพยนตร์ ‘เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน’

         
          กรุงเทพฯ (30 มิถุนายน 2557) -- นายบัลลังก์ ว่องธวัชชัย (กลาง) ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส พร้อมผู้บริหารกรุงศรี ในฐานะที่
กรุงศรีเป็น Exclusive Partnership ของโรงภาพยนตร์ ‘เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน’ โรงภาพยนตร์พรีเมียมระดับ 6 ดาว 
ที่หรูหราที่สุดของเมืองไทย ให้การต้อนรับลูกค้ารายสำคัญของธนาคารและบริษัทในเครือ พร้อมชมภาพยนตร์รอบพิเศษ 
เรื่อง ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 4: มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์ โดยมี ‘ป้อง’ ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ พระเอกสุดฮอต และเหล่าเซเลบริตี้ 
ร่วมงาน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่

ที่มา :http://www.krungsri.com/th/news-detail.aspx?cids=&cid=&did=3682

สินเชื่อบ้าน



ประกาศรายชื่อผู้โชคดี "SMS รู้ไว ไม่อั้น" ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 2



Plan your money



กรุงศรี และ ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ เปิดตัว Krungsri Thai Benefit Package ตั้งเป้าเป็นธนาคารหลักสำหรับชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทย


           กรุงเทพฯ (8 กรกฎาคม 2557) -- มร.โนริอากิ โกโตะ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายกฤษณ์ จันทโนทก (ขวา) 
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเงินฝาก การลงทุน ประกันภัย และธนบดี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 
เปิดตัว Krungsri Thai Benefit Package ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ไม่เหมือนใคร ที่เกิดจากความร่วมกันระหว่าง
ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพื่อมุ่งตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าชาว
ญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทย และเพื่อเป็นธนาคารหลักของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว Krungsri Thai Benefit Package ประกอบด้วย 
บัญชีเงินฝาก Krungsri Thai Savings บัตรเดบิต Krungsri Thai Debit และบัตรเครดิต กรุงศรี วีซ่า แพลทินัม 
การเปิดตัวนี้จัดขึ้น ณ โรงแรมโซฟิเทล โซ กรุงเทพฯ

ที่มา : http://www.krungsri.com/th/news-detail.aspx?cids=&cid=&did=3692

ประกาศรายชื่อผู้โชคดี "SMS รู้ไว ไม่อั้น" ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 3


อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ

อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ
อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ (ดอกเบี้ยอ้างอิง) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ธนาคารพาณิชย์ใช้อ้างอิงในการเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากลูกค้า ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)





ที่มา : http://www.krungsri.com/th/banking-rates04.aspx?flag=0 ณ วันที่ 21 มีนาคม 2557
http://www.bot.or.th/Thai/FinancialLiteracy/interest/Pages/interest2.aspx

69 ปีกรุงศรี 69 ทุนการศึกษา’ สานฝันเยาวชนสู่บัณฑิต

เนื่องในวาระครบรอบปีที่ 69 ของการก่อตั้งธนาคาร กรุงศรีได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษาในงาน ‘69 ปีธนาคารกรุงศรี 69 ทุนการศึกษา’ เพื่อสนับสนุนและสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน โดยในปีนี้ได้มอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่เรียนดีและมีความประพฤติดีต่อเนื่อง จำนวน 69 คน จากสถานสงเคราะห์และมูลนิธิทั้ง 7 แห่ง โดยมีคุณวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ประธานกรรมการ พร้อมด้วยกรรมการธนาคาร และผู้บริหารระดับสูง เป็นผู้มอบทุนการศึกษาแก่เยาวชน ในโอกาสนี้ตัวแทนเยาวชนได้กล่าวขอบคุณพร้อมมอบพวงมาลัย และรดน้ำขอพรจากท่านประธานกรรมการ กรรมการธนาคารและผู้บริหารระดับสูง เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริหารเป็นอย่างมาก



ที่มา : https://www.krungsri.com/th/csr-fornews-detail.aspx?cid=2&did=270

กิจกรรมบริจาคโลหิต ครั้งที่ 101 ของชาวกรุงศรี



ชาวกรุงศรีได้ร่วมใจแสดงพลังในกิจกรรมบริจาคโลหิตครั้งที่ 101 ของธนาคาร โดยมีเพื่อนพนักงานจำนวน 490 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว และสามารถรวบรวมโลหิตได้ถึง 196,000 ซีซี เมื่อวันอังคารที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 9 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักพระรามที่ 3

สำหรับเพื่อนๆ ที่พลาดกิจกรรมในครั้งนี้ สามารถหาข้อมูล ศูนย์บริจาคโลหิตใกล้บ้านได้ที่ www.redcross.or.th
หรือพบกันในกิจกรรมครั้งต่อไป

ที่มา : https://www.krungsri.com/th/csr-fornews-detail.aspx?cid=2&did=267

ร่วมสร้างรอยยิ้มให้กับน้องๆ ผ่านกิจกรรม ‘กรุงศรี...พาน้องดูหนัง ครั้งที่ 21’

     อาสาสมัครของธนาคารและบริษัทในกลุ่มกรุงศรีร่วมมอบความสุขและความบันเทิงให้กับน้องๆ เยาวชนในช่วงปิดภาคเรียน ผ่านกิจกรรม ‘กรุงศรี...พาน้องดูหนัง ครั้งที่ 21’ โดยได้พาน้องๆ จำนวน 200 คน จากสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม และโรงเรียนวัดคลองใหม่ เข้าชมภาพยนตร์เรื่อง Cloudy with a Chance of Meatballs 2 มหัศจรรย์ของกินดิ้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักประดิษฐ์ ฟลินท์ ล็อควู้ด ที่พยายามคิดค้นสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำเพื่อช่วยบรรเทาความอดอยากให้แก่ชาวโลก ได้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับน้องๆ เป็นอย่างมาก ณ โรงภาพยนตร์ KRUNGSRI IMAX สยามพารากอน เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา

 

ที่มา : https://www.krungsri.com/th/csr-fornews-detail.aspx?cid=2&did=271

กรุงศรี SME ผนึกเครือข่าย MUFG และความแข็งแกร่งของเครือกรุงศรี รุกกลุ่มซัพพลายเชน




กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) โดยกรุงศรี SME ได้ประกาศแผนและกลยุทธ์ธุรกิจ ปี 2557 ในวันนี้ว่าจะมุ่งให้ความสำคัญกับการขยายไปสู่กลุ่มธุรกิจ ที่อยู่ในเครือข่าย หรือซัพพลายเชน (supply chain) โดยการสนับสนุนของผู้ถือหุ้นใหญ่เชิงกลยุทธ์ รายใหม่ของกรุงศรี คือธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ซึ่งถือหุ้น 100% โดย มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) และความแข็งแกร่งของเครือกรุงศรี ทั้งกรุงศรี ออโต้ และ กรุงศรีคอนซูมเมอร์ มั่นใจปีนี้โตตามเป้าที่ 12.4%

นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “กรุงศรี SME มีแผนที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดไปสู่กลุ่มธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันเป็นห่วงโซ่ หรือซัพพลาย เชน ทั้งของไทย ญี่ปุ่น และบริษัทข้ามชาติอื่นๆ ด้วยการนำประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกของ MUFG และจุดแข็งของธุรกิจในเครือด้านสินเชื่อรายย่อยทั้งกรุงศรี ออโต้ และ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มาช่วยสร้างความเติบโตให้ลูกค้า พร้อมการเพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้สะดวกรวดเร็วขึ้น มั่นใจว่าการผนึกกำลังของกรุงศรี และ MUFG ในการสนับสนุนผู้ประกอบการ SME อย่างครบวงจรตลอดห่วงโซ่ของธุรกิจ จะผลักดันให้ กรุงศรี SME เติบโตประมาณ 12.4% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้”

อุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกันเป็นซัพพลายเชน และโดดเด่นมากคือ กลุ่มธุรกิจยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยตัวเลขของบีโอไอ ระบุว่า ปี 2555 มีบริษัทญี่ปุ่นมาลงทุนในประเทศไทยสูงถึง 761 โครงการ คิดเป็นมูลค่าลงทุนกว่า 3.48 แสนล้านบาท โดยลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เหล็ก และเครื่องจักรราว 49% และลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ราว 25% รวมการลงทุนในอุตสาหกรรมทั้งสองจำนวน 479 โครงการจากทั้งหมด 761 โครงการ

นอกจากนั้น ประเทศไทยยังเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ทั้งระดับภูมิภาคและโลก ในสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน โดยตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2556 ระบุว่าประเทศไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ราว 2.69 ล้านล้านบาท และในกลุ่ม ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ราว 1.9 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นราว 38% ของ GDP ของประเทศ


จากตัวเลขดังกล่าวจะเห็นได้ว่าภาคอุตสาหกรรมทั้งสองถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการหลักที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เชื่อมโยงกันเป็นห่วงโซ่ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการ SME จำนวนมาก นอกจากนั้นยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจ กรุงศรี SME จึงได้ผนึกความแข็งแกร่งของเครือข่ายระดับโลกของ MUFG และความชำนาญในสินเชื่อรายย่อย ของกรุงศรี ออโต้ และกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เพื่อมาสนับสนุนด้านสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ SME ตั้งแต่ผู้ผลิตวัตถุดิบ ผู้ผลิตสินค้า ผู้แทนจำหน่าย รวมถึงสนับสนุนสินเชื่อรายย่อยให้กับผู้บริโภคที่ครบวงจรอย่างแท้จริง โดยระยะแรกจะเริ่มกับอุตสาหกรรมหลักทั้งสองนี้ก่อนที่จะขยายไปสู่อุตสาหกรรมอื่นต่อไป”

กรุงศรียังมุ่งสร้างความแข็งแกร่งและการรับรู้แก่แบรนด์ ‘กรุงศรี SME’ กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ ‘Stronger Thai’ ซึ่งประกอบด้วยสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์และกิจกรรมการตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางธุรกิจและสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งระหว่างผู้ประกอบการ SME และความร่วมมือกับองค์กรใหญ่ๆ ทั้งในรูปแบบของ การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) การเรียนรู้จากการเยี่ยมชมธุรกิจขนาดใหญ่ระดับประเทศ (Open House) และการเสริมความรู้เชิงลึกจากกูรูผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ชั้นนำของประเทศ (Guru Talk) ตลอดทั้งปีต่อยอดและต่อเนื่องจากกิจกรรมที่ได้ริเริ่มมาในปีที่ผ่านมา

กิจกรรมต่างๆของกรุงศรี SME มีความแตกต่างตรงที่เรามุ่งให้เกิดเครือข่ายที่แท้จริงโดยเน้นที่กิจกรรม การจับคู่ธุรกิจ หรือ Business Matching เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาด ต่อยอดธุรกิจและช่วยเพิ่มมูลค่าทางการค้าให้กับผู้ประกอบการ SME ไทย ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายสยาม กล่าว

ที่มา : http://www.thailandindustry.com/news/view.

โคงสร้างการจัดการ(กรณีศึกษา)

1. โครงสร้างแบบเมทริกซ์ (Matrix  Structure)
ธนาคารกรุงศรีอยุธยาใช้โครงสร้างแบบ (Matrix  Structure)
เป็นโครงสร้างแบบแมททริกซ์ เป็การจัดองค์การโดยใช้ทีมงานซ้อนหน้าที่ และหน่อยงานต่างๆ ขององค์การที่ผู้ปฏิบัตงานมีนายสองคน หรือต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชาสองคน เพราะ องค์การดังกล่าวต้องทำงานหลากหลายหน่อยงานจำเป็นต้องมีความยือหยุ่นในสภาพแลดล้องที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด กรุงศรีได้ดำเนินกิจการซึ่งประกอบด้วยคณะการรมการธนาคารและคณะกรรมการชุดย่อยที่คณะกรรมการได้แต่งตั้งขึ้น 6 คณะ เพื่อช่วยใการปฏิบัติหน้าที่ด้านต่างๆ และให้เกิดความมั่นใจว่าได้มีการกำกับควบคุมความเสียงของกิจการ และได้มีการแบ่งกลุ่มเป็น 2 ลักษณะตามที่ความรับผิดชอบประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจ และกลุ่มงานสนับสนุนมีการแบ่งแยกทบบาทหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างคณะกรรมการธนาคารและฝ่ายจัดการที่ชัดเจน

           คณะกรรมการธนาคาร ปัจจุบันคณะกรรมการธนาคารมีจำนวนทั้งสิ้น 12 คน ประกอบด้วย กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร 5 คน กรรมการอิสระ 4 คน และกรรมการที่เป็นผู้บริหาร 3 คน  โครงสร้างองค์ประกอบ โดยหลักผู้ถือหุ้นเป็นผู้แต่งตั้งกรรมการในจ านวนที่เหมาะสมและเพียงพอส าหรับการท าหน้าที่ โดยมี กรรมการอิสระไม่น้อยกว่า 3 คน หรืออย่างน้อย 1 ใน 3 ของคณะกรรมการทั้งคณะ แล้วแต่จ านวนใดจะสูงกว่า และกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวนกรรมการทั้งหมดต้องมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
ลักษณะการจัดองค์การของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด( มหาชน ) ธนาคารได้ปฏิบัติตามแนวทางโครงสร้างคณะกรรมการ เพื่อส่งเสริมบรรษัทภิบาลของธนาคารพาณิชย์ โดยจัดโครงสร้างการจัดการ ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมการรวม 7 ชุด ดังนี้
         1. Organization Chat รวมของทั้งระบบ 1. คณะกรรมการธนาคาร คณะกรรมการธนาคารมีอำนาจเต็มในการบริหารงาน เพื่อประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับของธนาคาร และมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ อยู่ภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
         2. คณะกรรมการบริหาร - การพิจารณากลั่นกรองหรืออนุมัติสินเชื่อ ปรับปรุงหนี้ และตัดหนี้สูญ ตามอำนาจที่กำหนด - การพิจารณากลั่นกรองหรืออนุมัติการลงทุน หรือขายหลักทรัพย์ที่ธนาคารลงทุน การซื้อขายหรือให้เช่าทรัพย์ของธนาคาร ตามอำนาจที่กำหนด - การพิจารณากลั่นกรองหรืออนุมัติแต่งตั้งผู้บริหาร ตามที่ได้รับมอบหมาย - การพิจารณากลั่นกรองหรืออนุมัติการว่าจ้างที่ปรึกษา การจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบการพัสดุ - การพิจารณากลั่นกรองแผนธุรกิจ งานนโยบายและงบประมาณประจำปี การติดตามงานที่มีความสำคัญที่คณะกรรมการธนาคารมอบหมาย - การพิจารณาอนุมัติหรือรับทราบกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารงานที่คณะกรรมการบริหารเห็นว่าจำเป็นหรือสมควรเป็นการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งหากไม่ดำเนินการแล้วจะเกิดความเสียหายแก่ธนาคาร และรายงานให้คณะกรรมการธนาคารทราบโดยเร็ว - ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการธนาคารมอบหมาย 
          3. คณะกรรมการตรวจสอบ - สอบถามให้ธนาคารมีการรายงานทางการเงิน อย่างเพียงพอถูกต้อง และเชื่อถือได้ เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป - สอบถามกับผู้สอบบัญชีถึงประเด็นสำคัญ ๆ อันอาจกระทบต่อความเชื่อถือได้ของรายงานทางการเงิน - สอบถามกรณีที่เกิดรายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เพื่อพิจารณาการเปิดเผยข้อมูลของธนาคารและการบันทึกบัญชีให้มี ความถูกต้องและครบถ้วนโปร่งใส - สอบถามหลักฐานหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินการ ที่อาจมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคารอย่างมีนัยสำคัญ หรือขัดแย้งทางผลประโยชน์ ที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคาร - สอบถามถึงข้อมูลที่นำส่งหน่วยงานกำกับดูแล ให้มีความสอดคล้องกับข้อมูลในรายงานทางการเงิน
          4. คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน - กำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ และวิธีการ ในการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน รวมทั้งผลประโยชน์อื่นของกรรมการธนาคาร และผู้บริหารระดับสูง - พิจารณาเสนอแนะนโยบายในภาพรวมเกี่ยวกับการกำหนดค่าตอบแทนและผลประโยชน์อื่นของธนาคาร - สรรหาและคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติ ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด แล้วนำเสนอคณะกรรมการธนาคารเพื่อพิจารณาแต่งตั้งเป็นกรรมการธนาคารหรือผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร - ดูแลให้คณะกรรมการธนาคาร มีขนาดและองค์ประกอบที่เหมาะสมกับองค์กร รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป - เสนอคณะกรรมการธนาคาร เพื่อพิจารณาแต่งตั้งกรรมการธนาคารแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามข้อบังคับ - ดูแลให้กรรมการและผู้บริหารระดับสูงของธนาคารได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมกับหน้าที่และความรับผิดชอบที่มีต่อธนาคาร - กำหนดแนวทางและประเมินผลงานของผู้บริหารระดับสูง - ดำเนินการอื่น ตามที่คณะกรรมการธนาคารมอบหมาย 
          5. คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม - เสนอแนวนโยบายเกี่ยวกับหลักบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมของธนาคารและบริษัทในเครือต่อคณะกรรมการธนาคาร - กำกับดูแลการปฏิบัติงานของธนาคารให้เป็นไปตามหลักบรรษัทภิบาลของสถาบันกำกับ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม - พิจารณาทบทวนเกี่ยวกับนโยบายด้านบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมของธนาคารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของสากล และข้อเสนอแนะของสถาบันหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - พิจารณาเสนอข้อพึงปฏิบัติที่ดี สำหรับคณะกรรมการธนาคาร หรือเสนอการกำหนดข้อบังคับคณะกรรมการธนาคาร และคณะกรรมการที่ธนาคารแต่งตั้งทุกชุด - เสนอแนะข้อกำหนดเกี่ยวกับจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของธนาคาร และข้อพึงปฏิบัติของผู้บริหาร - ส่งเสริมการเผยแพร่วัฒนธรรมในการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เป็นที่เข้าใจทั่วทุกระดับ และมีผลในทางปฏิบัติ - พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อทำหน้าที่สนับสนุนงานบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ได้ตามความเหมาะสม - การอื่นใดที่คณะกรรมการธนาคารมอบหมาย 
          6. คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง - เสนอ/กำหนดนโยบายบริหารความเสี่ยงโดยรวมต่อคณะกรรมการธนาคาร ซึ่งครอบคลุมความเสี่ยงประเภทต่างๆที่สำคัญ ได้แก่ ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ ความเสี่ยงด้านเครดิต ความเสี่ยงด้านตลาด ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ และความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อชื่อเสียงของกิจการ เป็นต้น - วางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับนโยบายบริหารความเสี่ยง โดยสามารถประเมิน ติดตาม และดูแลปริมาณความเสี่ยงของธนาคารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม - ควบคุม ติดตาม ประเมินผลการบริหารความเสี่ยง และดูแลให้ธนาคารดำเนินการตามนโยบายและแนวทางบริหารความเสี่ยงที่ธนาคาร และหน่วยงานกำกับกำหนด - ทบทวนความเพียงพอของนโยบายและระบบบริหารความเสี่ยง รวมถึงความมีประสิทธิผลของระบบและการปฏิบัติตามนโยบายที่กำหนด - เสนอ/กำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยง และกำกับดูแลการบริหารความเสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินให้เป็นไปตามแนวทางการกำกับแบบรวมกลุ่ม (Consolidated Supervision) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ตลอดจนควบคุมติดตามและประเมินความเสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินให้มีประสิทธิภาพและอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ - นำเสนอรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงต่อคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อรับทราบและ/หรือพิจารณาทุกเดือน และรายงานต่อคณะกรรมการธนาคารเพื่อทราบ และ/หรือพิจารณาทุกไตรมาส - มีอำนาจที่จะเชิญฝ่ายจัดการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม และให้ข้อมูลหรือเอกสารในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ - ปฏิบัติหน้าที่อื่นใดตามที่ได้รับมอบหมาย
          7. คณะกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ทำหน้าที่ช่วยคณะกรรมการธนาคารในการปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของธนาคาร เพื่อให้มั่นใจว่า ธนาคารและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินมีการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ มาตรฐาน และแนวปฏิบัติที่ใช้บังคับกับธุรกรรมต่างๆ ทั้งจากหน่วยงานทางการที่มีอำนาจตามกฎหมายหรือผู้กำกับสถาบันการเงิน และกฎระเบียบภายในธนาคาร 
2. Organization Chat ของสายงานต่างๆ ธนาคารจะแบ่งกลุ่มงานออกเป็น 2 ลักษณะตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ประกอบด้วย กลุ่มงานหลัก และกลุ่มงานที่ไม่ใช่งานหลัก 
1. กลุ่มงานสายงานหลัก - สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย - สายงานธุรกิจขนาดกลาง - สายงานธุรกิจขนาดใหญ่ 1 - สายงานธุรกิจขนาดใหญ่ 2 - สายงานธุรกิจภาครัฐ - สายงานธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และบริการจัดการทางการเงิน 
2. กลุ่มงานที่ไม่ใช่สายงานหลัก - สายงานบริหารการเงิน - สายงานกำกับและบริหารงานกฎหมาย - สายงานปรับโครงสร้างหนี้และบริหารทรัพย์สิน - สายงานบริหารความเสี่ยง - สายงานปฏิบัติการ - สายงานตรวจสอบภายใน - สายงานทรัพยากรบุคคลและบรรษัทภิบาล - สายงานบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร - กลุ่มยุทธศาสตร์ธนาคาร 
3. Organization Chat ของฝ่ายต่างๆ ในสำนักงานใหญ่ ฝ่ายต่างๆ จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบตาม Functional ของฝ่ายที่ได้รับมอบหมาย โดยจะอยู่ภายใต้กรอบแนวทาง การดำเนินงานตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ จากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ และมีคณะกรรมการธนาคารซึ่งได้รับการรับเลือกจากผู้ถือหุ้นให้ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินงาน
4. Organization Chat ของสำนักงานเขตและสาขา
เขตกรุงเทพและปริมลฑล 272 สาขา ส่วนภูมิภาค 338 สาขา รวมสาขาในประเทศ 610 สาขา สาขาต่างประเทศ Vientiane 1 สาขา 
Hongkong 1 สาขา 
Savannakhet 1 สาขา 
Cayman Islands 1 สาขา
 รวมสาขาต่างประเทศ 4 สาขา จำนวนพนักงาน 
19,471 คน (รวมทั้งเครือ)
สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จำนวน 81 บูธ 
เครื่องเอทีเอ็ม จำนวน 4,779 เครื่อง ศูนย์ธุรกิจกรุงศรี จำนวน 55 แห่ง

60 ทุนการศึกษาเพื่อน้องๆเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2557




60 ทุนการศึกษาเพื่อน้องๆเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2557 
ในวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปี กรุงศรีทำหน้าที่เป็นหนึ่งในผู้มอบความสุขความทรงจำให้กับเด็กๆ
เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ และในปี 2557 นี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่กรุงศรีได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 60 ทุนให้แก่เด็กๆ
จาก 10 โรงเรียนในเขตยานนาวาสังกัดกทม. ที่มีความประพฤติดีและมีคุณธรรม ซึ่งการมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ได้
จัดขึ้นภายในงานวันเด็กโรงเรียนวัดดอกไม้โดยสำนักงานเขตยานนาวา



‘68 ปีกรุงศรี 68 ทุนการศึกษา’ สานฝันเยาวชนสู่บัณฑิต
กรุงศรีนำโดยคุณฟิลลิป แทนได้มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องให้กับน้องๆ ด้อยโอกาสในความดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ จำนวน 15 คน ที่มีผลการเรียนและความประพฤติดี เนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติ 20 กันยายน เพื่อสนับสนุนเยาวชนให้ได้รับการศึกษาจนสำเร็จในระดับชั้นอุดมศึกษา ซึ่งพี่ๆ ชาวกรุงศรีก็ได้แสดงความห่วงใย และขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ก้าวสู่ความสำเร็จในการเรียนทุกคน




 เนื่องในวาระครบรอบปีที่ 68 ของการก่อตั้งธนาคาร กรุงศรีได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษา ‘68 ปีธนาคารกรุงศรี 68 ทุนการศึกษา’
เพื่อเป็นแรงสนับสนุนในการสร้างโอกาสให้กับเยาวชนผู้ด้อยโอกาสสามารถก้าวข้ามอุปสรรคทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และสภาพ
ความเป็นอยู่ เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จในอนาคต โดยกรุงศรีได้มอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนจากสถานสงเคราะห์ 7 แห่งในกรุงเทพฯ
ที่ผ่านการคัดเลือกจากธนาคาร จำนวน 68 คน โดยมีคณะกรรมการธนาคาร ผู้บริหารระดับสูง และพนักงาน ร่วมพูดคุยให้กำลังใจ
กับเยาวชนด้วยบรรยากาศใกล้ชิดและเป็นกันเอง ซึ่งน้องๆ ที่สามารถรักษาระดับผลการเรียนและมีความประพฤติดีจะได้รับทุน
การศึกษาต่อเนื่องปีละ 5,000 บาท จนกระทั่ง จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี หรือสูงสุดตามศักยภาพของน้องๆ แต่ละคน

ซึ่งในปีนี้มีน้องนักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยจากการคว้าแชมป์ล่าสุดรายการ 2012
International Junior Disability Championships จากประเทศสหรัฐอเมริกา ด.ช.เดชาวัติ กาหลง (น้องบอส) ซึ่งอยู่
ในความดูแลของโรงเรียนศรีสังวาลย์ มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี

เข้าร่วมรับทุนครั้งนี้ด้วย


ที่มา : https://www.krungsri.com/th/csr-forsocial-detail.aspx?cid=1&did=14

เสียงขอบคุณจากน้องๆ ถึงอาสาทุกท่าน ในโครงการกรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน

เสียงขอบคุณจากน้องๆ ถึงอาสาทุกท่าน ในโครงการกรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน
ผ่านไปแล้วกับเทอมที่สอง ในโครงการกรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน ที่อาสาชาวกรุงศรีได้ออกไปมอบความรู้ทางการ
เงินให้แก่น้องๆ ระดับปวช.และปวส. โดยน้องๆ กลุ่มที่จบหลักสูตรไปล่าสุด คือ กลุ่มน้องๆ สาขาเทคโนโลยี
สารสนเทศ และ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี โดยมีน้องๆ ทั้งหมดจำนวน 40 คนที่เข้าร่วม
อบรม น้องๆ ได้รับใบประกาศนียบัตรไปพร้อมกับความสนุกและความรู้ที่เหล่าชาวอาสาได้ตระเตรียมไปให้กับน้องๆ
ซึ่งก็สร้างความประทับใจให้กับน้องๆ เป็นอย่างมาก ต้องขอขอบคุณอาสาสมัครทุกท่านเป็นอย่างมากที่มาร่วมด้วย
ช่วยกันในงานนี้ และคอยพบกับโครงการหน้าในเร็วๆ นี้

เสียงขอบคุณจากน้องๆ ในโครงการกรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน
ผ่านไปแล้วกับครึ่งปีแรกของโครงการกรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน ที่อาสาพนักงานกรุงศรีได้ออกไปมอบความรู้
ทางการเงินให้แก่น้องๆ ระดับปวช.และปวส. โดยน้องๆ กลุ่มที่จบ หลักสูตรไปล่าสุดคือกลุ่มน้องๆ สาขาธุรกิจ
ค้าปลีกที่พณิชยการเชตุพน ซึ่งก็สร้างความประทับใจให้กับน้องๆ เป็นอย่างมาก บางคนถึงกับขอยืดการเรียน
การสอนออกไปอีก เพื่อจะได้เจอกับพี่ๆ กรุงศรีกันบ่อยๆ เลยทีเดียว


ซึ่งต่อไป นอกจากการสอนปกติกับกลุ่มน้องๆ ปวช. และปวส. แล้ว กรุงศรียังเพิ่มคลาสสำหรับผู้เรียนกลุ่มใหม่
นั่นก็คือ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดศิริราช เพื่อพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มนี้จะได้เรียนรู้หลักการออม การกู้ การทำเงินให้
งอกงาม โดยไม่ต้องพึ่งการกู้นอกระบบ
 

กรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน...ทำเรื่องเงินให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับน้องๆ อาชีวะ
โครงการกรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน ซึ่งอาสาสมัครชาวกรุงศรีได้ร่วมมอบความรู้ทางการเงินให้กับน้องๆ ปวช. และปวส.ชั้นปีสุดท้าย ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่าน มาน้องๆ จำนวน 72 คน จากวิทยาลัยพณิชยการธนบุรีได้ผ่านการอบรมครบทั้งหลักสูตร และได้รับใบประกาศนียบัตรไปเป็นที่เรียบร้อย


สิ้นสุดไปแล้วกับครึ่งแรกของปีการศึกษา 1/2555 ในโครงการกรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน ซึ่งอาสาสมัครชาวกรุงศรีกว่า 60 คนได้ร่วมมอบความรู้ทางการเงินให้กับน้องๆ ปวช. และปวส. ชั้นปีสุดท้ายจำนวน 227 คนจากวิทยาลัยพณิชยการธนบุรีและเชตุพน
โดยเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา คุณพรสนอง ตู้จินดาได้มอบโล่แสดงความขอบคุณอาสาสมัครทุกคนในงาน Krungsri Volunteer Thank You Party ที่จัดขึ้นเพื่ออาสาสมัครโครงการนี้โดยเฉพาะ
สำหรับชาวกรุงศรีที่สนใจร่วมเป็นอาสาสมัคร
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร 02-296-4026หรือsavitree.nitichawin@krungsri.com



ผ่านไปแล้วกับครึ่งแรกของปีการศึกษา 1/2555 ในโครงการกรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน ซึ่งอาสาสมัครชาวกรุงศรีได้ร่วมมอบความรู้ทางการเงินให้กับน้องๆ ปวส. ชั้นปีสุดท้าย ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา น้องๆ 120 คนจากวิทยาลัยพณิชยการธนบุรีและเชตุพนก็ได้ผ่านการอบรมครบทั้งหลักสูตรและได้รับใบประกาศนียบัตรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว




กรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน” จุดประกายความเข้าใจเรื่องบริหารเงิน เริ่มที่เยาวชนอาชีวะ


โครงการ “กรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน” เป็นโครงการเพื่อสังคมหลักของธนาคารที่มีเป้าหมาย


เพื่อให้ความรู้ในเรื่องการเงินส่วนบุคคลแก่นักเรียนในระดับอาชีวะที่กำลังศึกษาอยู่ในปีสุดท้าย โดยมีอาสาสมัครพนักงานของกรุงศรีกรุ๊ปเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ โดยหลักสูตรที่จัดทำขึ้นนั้นเพื่อปลูกฝังความรู้ด้านพื้นฐานการเงิน และทักษะในการกู้และการออมเงินอย่างมีความรับผิดชอบ หลักสูตรดังกล่าวประกอบไปด้วยความรู้พื้นฐานด้านการเงิน ๕ ส่วน ได้แก่


• ใช้เงินอย่างชาญฉลาด
• ทำอย่างไรให้ได้งาน ทำอย่างไรให้ได้เงินเดือนขึ้น
• เป็นเถ้าแก่ง่ายนิดเดียว
• เก็บเงินให้พอเพียงและทำเงินให้งอกงาม
• เอาตัวรอดในทุ่งดอกเบี้ย


กรุงศรีกรุ๊ปได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในการจัดทำโครงการเพื่อให้ความรู้พื้นฐานด้านการเงิน โดยอาสาสมัครพนักงานธนาคารได้ร่วมกันอุทิศเวลาเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียน และเพื่อทำให้โครงการนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ธนาคารได้จัดการอบรม “Train the Trainer” ให้แก่คณาจารย์ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อให้สามารถรับหน้าที่เป็นผู้สอนต่อไปได้เมื่อมีความพร้อม

ที่มา : https://www.krungsri.com/th/csr-forsocial-detail.aspx?cid=1&did=10

กรุงศรีร่วมอนุรักษ์โบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

กรุงศรีร่วมอนุรักษ์โบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คุณสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร รับมอบเงินสนับสนุนจากโครงการ “กรุงศรีอนุรักษ์ศิลปกรรมและโบราณสถาน จังหวัดบ้านเกิด” จำนวน 4,060,000 บาท เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูบูรณะศิลปกรรมและโบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากเหตุอุทกภัยในปี 2554 โดยมี
คุณเจนิส แวน เอ็กเคอเรน ประเจ้าหน้าที่บริหาร ให้เกียรติเป็นผู้มอบเงินสนับสนุนดังกล่าว
ทั้งนี้ กรุงศรีได้ร่วมมือกับทางกรมศิลปากรในการร่วมอนุรักษ์และทำนุบำรุงโบราณสถานและวัดในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอันเป็นดินแดนมรดกโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ไทย
ธนาคารกรุงศรีส่งมอบโบราณสถานเจดีย์วัดสามปลื้มและป้ายโบราณสถาน
ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาแก่กรมศิลปากร
 


พระนครศรีอยุธยา (21 พฤศจิกายน 2555) – ธนาคารกรุงศรีอยุธยาวันนี้ได้ทำพิธีส่งมอบโบราณสถานเจดีย์วัดสามปลื้ม ณ ตำบลไผ่ลิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการบูรณะซ่อมแซมหลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในปี 2554 ที่ผ่านมา แก่กรมศิลปากร นอกจากนี้ธนาคารยังได้สนับสนุนการปรับปรุงป้ายโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยมีการปรับปรุงป้ายโบราณสถานจำนวน 24 แห่ง เป็นจำนวนป้ายทั้งสิ้น 139 ป้าย รวมมูลค่าเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 3.9 ล้านบาท

นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า “จังหวัดพระนครศรีอยุธยานับเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และยังเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในปีที่ผ่านมา จึงจำเป็นต้องได้รับการบูรณะซ่อมแซมโดยเร่งด่วน ซึ่งธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นหนึ่งในหน่วยงานภาคเอกชนที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการบูรณะโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยเป็นผู้สนับสนุนในการบูรณะโบราณสถานเจดีย์วัดสามปลื้ม หนึ่งในโบราณสถานที่สำคัญของพระนครศรีอยุธยา รวมถึงการปรับปรุงป้ายโบราณสถาน”
 นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 84 พรรษา ในปีที่ผ่านมา ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจึงได้ริเริ่มโครงการ “บูรณะเจดีย์วัดสามปลื้ม” และ “ปรับปรุงป้ายโบราณสถาน ภายในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” ขึ้น โดยความผูกพันของธนาคารกับพระนครศรี อยุธยา เริ่มต้นจากการเปิดสาขาแห่งแรก ณ อำเภอหัวรอ เมื่อปี พ.ศ. 2488 จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ธนาคารจะได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมในจังหวัดบ้านเกิดของธนาคารให้มรดกของชาติไทยคงอยู่ถึงชนรุ่นหลังสืบต่อไป” 

ธนาคารได้ให้การสนับสนุนการอนุรักษ์โบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ธนาคารได้จัดทำโครงการบูรณะจิตรกรรมฝาผนัง ณ วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหารเป็นครั้งแรกเพื่อฉลองการก่อตั้งธนาคารครบ 60ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ได้ดำเนินการซ่อมแซมสีในวัดเดียวกัน และในปี พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมาหลังเหตุการณ์อุทกภัย ธนาคารได้จัดกิจกรรมร่วมกันทำความสะอาดและฟื้นฟูวัดวรเชษฐ์นอก ซึ่งเป็นสถานที่หนึ่งในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่

 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีบทบาทโดดเด่นในการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมประจำชาติ และมีความเชื่อมั่นในความพยายามของธนาคารที่จะช่วยสานต่อศิลปะและวัฒนธรรมให้ถ่ายทอดไปสู่คนรุ่นใหม่ ผ่านทางรายการโทรทัศน์ “จดหมายเหตุกรุงศรี” รวมไปถึงการจัดพิธีทอดกฐินพระราชทานและโครงการล่าสุดที่ธนาคารริเริ่มขึ้น คือโครงการอนุรักษ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์และมรดกโลกที่ได้รับผลกระทบมากมายจากอุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่

เมื่อช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา กรุงศรีกรุ๊ปได้มอบเงินสนับสนุนการเพื่อฟื้นฟูและปรับปรุงโบราณสถานในจ.อยุธยาให้กรมศิลปากรจำนวน 3.9 ล้านบาทโดยเงินสนับสนุนจำนวนนี้จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะนำไปฟื้นฟูบูรณะเจดีย์วัดสามปลื้ม ซึ่งตั้งอยู่กลางสี่แยกใจกลางจ.อยุธยา ซึ่งนอกจากจะมีสภาพภายนอกที่ทรุดโทรมแล้ว เหตุการณ์น้ำท่วมยังสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างภายในและอาจทำให้ตัวเจดีย์ทรุดลงได้ ส่วนที่สอง จะถูกจัดสรรเพื่อนำไปจัดทำป้ายบรรยายความเป็นมาของโบราณสถานแต่ละแห่ง จำนวน 139 ป้ายสำหรับโบราณสถานทั้งหมด 35 แห่ง เพื่อทดแทนป้ายเดิมที่ทรุดโทรมและเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม
- กรุงศรีกรุ๊ปอาสาทำความดีเพื่อจังหวัดบ้านเกิด

วัดวรเชษฐ์เทพบำรุง หรือวัดวรเชษฐ์นอก โบราณสถานสำคัญในความดูแลของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับความเสียหายในช่วงน้ำท่วม ดังนั้นเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2554 ที่ผ่านมา อาสาสมัครชาวกรุงศรีกว่า 120 คนจากธนาคารและบริษัทในเครือ จึงได้ร่วมกันทำกิจกรรมดีๆ ส่งท้ายปี 2554 ด้วยการร่วมกันทำความสะอาดตัวโบราณสถาน

คุณชัยนันท์ บุษยรัตน์ ผ.อ.อุทยานฯ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณจากใจจริงในแรงกายแรงใจของอาสาสมัครทุกคนที่มาร่วมกันทำความดีในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่องในการฟื้นฟูจ.อยุธยา โดยในลำดับต่อไป กรุงศรีจะดำเนินการบูรณะเจดีย์วัดสามปลื้ม และจัดทำป้ายบรรยายประวัติตามโบราณสถานต่างๆ ทั่วจ.อยุธยา

โครงการอนุรักษ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดบ้านเกิดของธนาคาร
โครงการกรุงศรีรอบรู้เรื่องเงิน จุดประกายความเข้าใจเรื่องบริหารเงิน ...
‘68 ปีกรุงศรี 68 ทุนการศึกษา’ สานฝันเยาวชนสู่บัณฑิต
ร่วมสร้างรอยยิ้มให้กับน้องๆ ผ่านกิจกรรม ‘กรุงศรี...พาน้องดูหนัง ครั้งที่ 21’
กิจกรรมบริจาคโลหิต ครั้งที่ 101 ของชาวกรุงศรี
69 ปีกรุงศรี 69 ทุนการศึกษา’ สานฝันเยาวชนสู่บัณฑิต

ความรับผิดชอบต่อสังคม

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีเจตนารมณ์ด้านความรับผิดชอบสังคมในอันที่จะเกื้อกูลสังคมในทุก ๆ ด้าน เพื่อตอบแทนแก่สังคมและชุมชนที่พนักงานธนาคารอาศัยอยู่และที่ธนาคารเข้าไปดำเนินธุรกิจ การดำเนินกิจกรรมสังคมของธนาคารมุ่งเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของพนักงานธนาคาร ผ่านรูปแบบกิจกรรมอาสาสมัคร เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกการรับผิดชอบต่อสังคมและแก่พนักงานทุกระดับอย่างต่อเนื่อง

ตลอดระยะเวลา 68 ปีของการดำเนินธุรกิจ ธนาคารได้ดำเนินกิจกรรมสังคมในโครงการที่ธนาคารริเริ่มขึ้น และสนับสนุนกิจกรรมสังคมขององค์กรสาธารณกุศล หน่วยงานภาครัฐและเอกชน การบริจาคเพื่อการกุศลต่าง ๆ ทั้งนี้ ธนาคารมุ่งเน้นให้ความสำคัญกิจกรรมสังคมทางด้านการศึกษาและเยาวชน สิ่งแวดล้อมและสังคม ด้านศิลปวัฒนธรรมและศาสนา กิจกรรมสาธารณประโยชน์ และกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

ในปี 2556 ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับกิจกรรมสังคมด้านสิ่งแวดล้อม เยาวชนและการศึกษา และสานต่อโครงการ
"Earth Care" ภายใต้แนวคิดหลัก "ประหยัดพลังงาน ลดสร้างมลภาวะ เติมป่าสีเขียวให้โลก" และ โครงการ "กรุงศรี... สานฝันเยาวชนคนดี"

โครงการเพื่อสังคมล่าสุด

ที่มา : https://www.krungsri.com/th/csr.aspx

สาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยา



ขอบข่ายการบริการ


สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จำนวน 81 บูธ
เครื่องเอทีเอ็ม จำนวน 4,779 เครื่อง
ศูนย์ธุรกิจกรุงศรี จำนวน 55 แห่ง
ศูนย์บริการและพื้นที่บริการ Exclusive Banking จำนวน 19 แห่ง
ศูนย์บริการกรุงศรีเฟิร์สช๊อยส์ 53 สาขา + 12,749 ตัวแทนจำหน่าย
กรุงศรี ออโต้ 43 สาขา + 6,300 ผู้จำหน่ายรถยนต์
สาขาซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด 295 แห่ง


จำนวนสาขาธนาคารกรุุงศรีอยุธยา

สาขาในประเทศ
เขตกรุงเทพและปริมลฑล 272 สาขา
ส่วนภูมิภาค 338 สาขา
รวมสาขาในประเทศ 610 สาขา
สาขาต่างประเทศ
Vientiane 1 สาขา 
Hongkong 1 สาขา
Savannakhet 1 สาขา
Cayman Islands 1 สาขา
รวมสาขาต่างประเทศ 4 สาขา

จำนวนพนักงาน
19,471 คน (รวมทั้งเครือ)


โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่


โครงสร้างการถือหุ้น
ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557
รายชื่อผู้ถือหุ้นสามัญเกินกว่า 0.5%
( หุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้ว จำนวน 6,074,143,747 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น 10 บาท )



สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นต่างด้าว 72.22 %


หมายเหตุ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด ได้แจ้งต่อธนาคารเกี่ยวกับผลการซื้อหลักทรัพย์ของธนาคาร จำนวน 4,373,714,120 หุ้น หรือคิดเป็น 72.01% ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร ซึ่งจำนวนดังกล่าวได้รวมการซื้อหลักทรัพย์จาก GE Capital International Holdings Corporation จำนวน 1,538,365,000 หุ้น แล้ว

ที่มา : www.krungsri.com/th/about-us-listing.aspx?cid=89

โครงสร้างคณะกรรมการธนาคาร
















โครงสร้างองค์กร





ที่มา : http://www.krungsri.com/th/about-us-listing.aspx?cid=50

ข่าวทั่วไป




ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- อังคารที่ 20 พฤษภาคม 2557 00:00:47 น.

แดน ฮาร์โซโน่ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจต่างประเทศธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ ทีมงาน The Voice Kids Thailand ที่ได้เข้าพบเพื่อแสดงการขอบคุณกรุงศรีในฐานะผู้ร่วมให้การสนับสนุนรายการมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 1 ล้านบาท แก่ พรสวรรค์ ญาณวโร หรือ บุ้งกี๋ (ขวา) ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน The Voice Kids Thailand

ที่มา : http://jo.klongjan.com/go.php?to=http://www.ryt9.com/tag

กิจกรรม

                             อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ MLR MOR MRR คลิกที่นี้ !

กรณีศึกษา โคงสร้างการจักการ คลิกที่นี้!




          สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 3 ถึงระดับปริญญาโท ในทุกคณะ ทุกสาขา อายุไม่เกิน 25 ปี หากคุณมีความรู้มุ่งมั่น ตั้งใจ พร้อมก้าวสู้เส้นทางของนักวางแผนทางการเงินและการลงทุน ขอต้อนรับเข้าสู่เวทีสำหรับคนรุ่นใหม่...เข้มข้นกับความรู้ทางการเงินพร้อมเปลี่ยนคุนเป็นมืออาชีพ ริงรางวัลรวมกว่า 5,000,000 บาท

ซึ้งก็ได้ไปสอบมาแล้วเมื่อวันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมาครับ